จากจูจุสึสู่โฮจุสึ

หลังจากที่ ซานาดะ ยุกิสึระ ผู้ครองแคว้นรุ่นที่ 8 ผู้เริ่มก่อตั้งโรงเรียนบุนบุ เข้าร่วมรัฐบาลโชกุนในฐานะผู้อาวุสโสรับตำแหน่งไคโบคาการิ ดูแลความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่กำลังตึงเครียด
มัตสึชิโระภายใต้การริเริ่มของผู้ครองแคว้น มีการปฏิรูประบบการทหารให้ตระเตรียมอาวุธยุทโธปกรณ์แบบตะวันตกขึ้น
ภายใต้การนำของข้าหลวงเอะกาวะทาโร่ ซาเอมง เหล่านักรบหลายสิบคนเช่น ซะคุมะ โชซัง ได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่นี้และเริ่มผลิตปืนแบบฝรั่งและปืนใหญ่ด้วยตนเองขึ้นที่มัตสึชิโระ นอกจากนี้ สำนักโฮจุทสึ(ศิลปะการยิงปืน)สำนักหนึ่งชื่อสำนักโอะอิเอะ(สำนักซานาดะ) โดย ซะคุมะ โยซาเอมง ก็ได้เริ่มก่อตั้งขึ้นด้วย
ที่โรงเรียนบุนบุก็เช่นกัน ก็มีคำสั่งให้นักเรียนต้องเรียนโฮจุทสึ(ศิลปะการยิงปืน)ควบคู่ไปกับเค็นจุสึหรือโซจุสึ อย่างใดอย่างหนึ่ง จากช่วงเวลานั้นเป็นต้นมาการเรียนจูจุสึ หรือคิวจุสึ ก็ลดน้อยลง ในปีค.ศ. 1868 จูจุสึโช ถูกเปลี่ยนเป็น [โรงผลิตปืนใหญ่] ทำให้การเรียนจูจุทสึถูกยกเลิกไป
ในสงครามโบะชินซึ่งเป็นสงครามกลางเมือง กระสุนปืนใหญ่ถูกใช้ไป 5,716 ลูก กระสุนปืนพกถูกใช้ไป 935,849 ลูก อ้างอิงตามเอกสารเดือนพฤษภาคม ปีค.ศ. 1870 แคว้นมัตสึชิโระมีอาวุธปืนอยู่มากมายแยกเป็น ปืนใหญ่ 53 กระบอกและ ปืนเล็ก 2,325 กระบอก
มาเอะจิมะ เกงโซคาซึมาสะ ข้าราชการในรัฐบาลโชกุนหลายตำแหน่งเช่น บุเกียว, เมะทสึเคะ, โจบิเคชิ เป็นต้น ได้ฝึกสอนศิลปะการใช้ปืนแบบสำนักโอะกิโนะ และเป็นอาจารย์ฝึกการยิงปืนของแคว้นมัตสึชิโระด้วย
บ้านของตระกูลมาเอะจิมะ ถูกกำหนดให้เป็นสมบัติล้ำค่าของจังหวัดนางาโนะ ในฐานะที่เป็น "บ้านเก่าของตระกูลมาเอะจิมะ"