พิพิธภัณฑ์สมบัติซานาดะ

พิพิธภัณฑ์สมบัติซานาดะ

40 นาทีที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ของแคว้นมัตสึชิโร่ที่ตระกูลซานาดะซึ่งปกครองมัตสึชิโร่ในยุคเอโดะ ตั้งแต่ซานาดะ โนบุยูกิ จนถึงรุ่นที่ 10 เป็นระยะเวลา 250 ปี
รวมทั้งซานาดะ ยูกิสึนะ (ยูกิทากะ) ที่ได้เข้าร่วมต่อสู้ในสงครามคาวานากะจิม่า ในยุคเอโดะ จนพัฒนาขึ้นเป็นเมืองรอบปราสาทที่มีกรรมสิทธิ์หนึ่งแสนโกกุ
สามารถสัมผัสกับความน่าสนใจของเจ้านายในสมัยก่อนอย่างใกล้ชิดผ่านเครื่องมือเครื่องใช้และเอกสารต่างๆ
เครื่องมือเครื่องใช้ของไดเมียวที่ได้รับสืบทอดมาจากตระกูลซานาดะมีมากถึง 50,000 รายการ
สิ่งของเหล่านี้จะถูกนำมาจัดแสดงต่อสาธารณะตามลำดับ โดยผลัดเปลี่ยนนำมาจัดแสดงปีละ 4 ครั้ง
การได้พบกับสมบัติและสิ่งของที่ต่างกันออกไปทุกครั้งที่มาเยือน ก็ถือเป็นความเพลิดเพลินอย่างหนึ่ง
ไม่เพียงแค่อาวุธและเครื่องมือเครื่องใช้เท่านั้น เอกสารและภาพม้วน (ภาพวาดที่จัดเก็บโดยการม้วน) ก็น่าสนใจเช่นกัน

คฤหาสน์ซานาดะ

คฤหาสน์ซานาดะ

คฤหาสน์หรูหราที่มีห้องถึง 35 ห้องไม่เพียงแค่เป็นที่อยู่อาศัยส่วนตัวเท่านั้น ยังเคยเป็นสำนักงานรับรองรัฐบาลในแคว้นและผู้คนมาเยี่ยมเยือนอีกด้วย
หากชมอย่างละเอียดและทราบถึงบทบาทของแต่ละห้องแล้ว ท่านจะได้ค้นพบอะไรอีกมากมาย
ไม่เพียงแค่เป็นสถานที่สำหรับอยู่อาศัยเท่านั้นแต่เป็นคฤหาสน์ที่เป็นสถานที่ว่าราชการด้วย
หากต้องการทราบถึงบทบาทของแต่ละห้องหรือต้องการชมภายในคฤหาสน์อย่างละเอียด ขอแนะนำให้เดินชมพร้อมกับไกด์อาสาสมัคร

โรงเรียนบุนบุ

โรงเรียนบุนบุ

เมื่อลูกของซามูไรในแคว้นอายุครบ 8 ขวบจะเข้าเรียนที่นี่จนถึงอายุ 35 ปี ทั้งด้านวรรณกรรมและการทหาร เรียนโดยนั่งฟังบรรยายด้านวรรณคดี วรรณคดีจีน ดาราศาสตร์ การแพทย์ เป็นต้น รวมทั้งศิลปะการต่อสู้ด้วยดาบ ศิลปะการต่อสู้แบบอ่อน (จูจุสึ) และศิลปะการยิงธนู
และยังถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์และละครอีกด้วย
โรงเรียนประจำแคว้นถูกสร้างขึ้นประมาณ 250 แห่งทั่วประเทศ แต่ส่วนใหญ่แทบไม่หลงเหลือสภาพของโรงเรียนในสมัยนั้นให้เห็น จึงนับเป็นสิ่งที่มีค่ามาก
เป็นโรงเรียนที่สอนครอบคลุมทั้งการเรียนด้านวิชาการเช่นวรรณคดีจีน ประวัติศาสตร์ การแพทย์และการทหารเป็นต้น รวมทั้งศิลปะการต่อสู้เช่น หอก ดาบ ธนู และศิลปะความอ่อน ฯลฯ
ปัจจุบันถูกใช้เป็นสถานที่ฝึกซ้อมและแข่งขันเค็นโด้ ยิงธนู และศิลปะการต่อสู้แบบโบราณ เป็นต้น

ซากปราสาทมัตสึชิโร่

ซากปราสาทมัตสึชิโร่

ปราสาทมัตสึชิโร่ (ในยุคเซ็นโกกุถูกเรียกว่า ปราสาทไคซึ) สร้างขึ้นในฐานะปราสาทเพื่อใช้สำหรับการสู้รบในสงครามยุคกลาง คาดว่าเดิมทีไม่มีตัวปราสาท
ข้อสันนิษฐานที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดก็คือ เป็นป้อมปราการธรรมชาติที่ใช้ ภูมิประเทศของแม่น้ำชิกุมะซึ่งอยู่ใกล้เคียงมาเป็นหอคอยสำหรับสังเกตุการณ์
ชมสถานที่ซึ่งเคยเป็นสนามรบในสงครามคาวานากะจิม่า เช่น ภูเขาไซโจและภูเขาอะมากาซาริ เป็นต้น
ลองปีนขึ้นไปชมบรรยากาศที่อยู่รอบๆ
ในยุคเอโดะ คฤหาสน์ของเจ้าเมืองได้ถูกสร้างขึ้นในบริเวณตัวปราสาท (ฮงมารุ) แต่ได้ถูกน้ำท่วมหลายครั้งรวมทั้งถูกไฟไหม้จนหมด
หลังช่วงกลางยุคเอโดะ คฤหาสน์ “ฮานะโนะมารุ โกะเต็น” ได้ถูกสร้างขึ้นทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของฮงมารุ และได้กลายเป็นศูนย์กลางราชการของรัฐบาลในแคว้น
แต่ว่า คฤหาสน์ “ฮานะโนะมารุ โกะเต็น” ก็ได้ถูกวางเพลิงจนไฟไหม้จนหมดในช่วงต้นยุคเมจิ คฤหาสน์ “ชินโกะเต็น” ที่เหลืออยู่จึงได้กลายเป็นคฤหาสน์ส่วนตัวของตระกูลซานาดะหลังยุคปฏิรูปเมจิ

ประตูด้านหน้าบ้านเก่าตระกูลชิราอิ

ประตูด้านหน้าบ้านเก่าตระกูลชิราอิ

ตระกูลชิราอิเป็นครอบครัวซามูไรชั้นกลางในแคว้น ซึ่งทำหน้าที่เป็นข้ารับใช้มาหลายชั่วอายุคน ประตูนากาย่ามงซึ่งมีความกว้างประมาณ 20 เมตร นับเป็นประตูที่มีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับคฤหาสน์ของบ้านซามูไรที่อยู่ในบริเวณปราสาทมัตสึชิโร่
มีเพียงประตูเท่านั้นที่ถูกย้ายมายังบริเวณนี้ และได้ช่วยสร้างภูมิทัศน์ทางประวัติศาสตร์ให้แก่บริเวณนี้
ภายในถูกนำมาทำเป็นที่สำหรับพักผ่อนโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย สามารถเพลิดเพลินกับการพูดคุยแลกเปลี่ยนกับอาสาสมัครทรัพย์สินทางวัฒนธรรม ที่ประจำอยู่ที่นี่ได้ด้วย
นอกจากนี้ยังให้บริการด้วยชาร้อนและผักดองที่ทำขึ้นเองด้วย
เนื่องจากอาสาสมัครเหล่านี้เป็นผู้ที่รู้เรื่องราวของประวัติศาสตร์ในพื้นที่และภูมิศาสตร์เป็นอย่างดี การพูดคุยจึงเป็นความเพลิดเพลินอย่างหนึ่ง

ศาลเจ้าโซซัน

ศาลเจ้าโซซัน

ศาลเจ้าที่ถูกสร้างขึ้นใกล้กับสถานที่เกิดของโซซัน เพื่อเป็นเกียรติแก่ซาคุมะ โซซัน นักการเมืองและนักวิชาการที่ให้คำแนะนำทั้งทางด้านการทหาร วิทยาศาสตร์และด้านการเมืองในฐานะ ผู้บุกเบิกในช่วงปลายยุคเอโดะ

อนุสรณ์สถานโซซัน

อนุสรณ์สถานโซซัน

ซาคุมะ โซซันเป็นผู้ที่บุกเบิกแนวความคิดใหม่ๆ และเป็นอาจารย์ของโยชิดะ โชอิน, คะสึ ไคชู, ซากาโมโต้ เรียวมะ ฯลฯ ซึ่งเป็นผู้นำที่มีชื่อเสียงในช่วงปลายยุคเอโดะ
หากท่านต้องการชมความสัมพันธ์ของมิตรภาพ ความสัมพันธ์ของอาจารย์และลูกศิษย์ และชีวิตในตอนนั้น ท่านจะต้องไม่พลาดชมที่นี่
โซซันได้ทดลองทำอุปกรณ์ที่ทันสมัยจำนวนมาก ซึ่งยังไม่เป็นที่แพร่หลายในประเทศญี่ปุ่นสมัยนั้น เช่น เครื่องถ่ายภาพ เครื่องโทรเลขและเครื่องบำบัดรักษาด้วยไฟฟ้า โดยอ่านหนังสือภาษาดัตช์จำนวนมากมายและทำความเข้าใจด้วยตนเอง
ความรู้และการมองการไกลของโซซัน จะทำให้ท่านต้องประหลาดใจกับความคิดลงมือทำในทันทีที่นึกขึ้นได้
วัตถุที่นำมาจัดแสดงจะถูกผลัดเปลี่ยนปีละ 4 ครั้ง

อนุสรณ์สถานโซซัน

อนุสรณ์สถานโซซัน

ซาคุมะ โซซันเป็นผู้ที่บุกเบิกแนวความคิดใหม่ๆ และเป็นอาจารย์ของโยชิดะ โชอิน, คะสึ ไคชู, ซากาโมโต้ เรียวมะ ฯลฯ ซึ่งเป็นผู้นำที่มีชื่อเสียงในช่วงปลายยุคเอโดะ
หากท่านต้องการชมความสัมพันธ์ของมิตรภาพ ความสัมพันธ์ของอาจารย์และลูกศิษย์ และชีวิตในตอนนั้น ท่านจะต้องไม่พลาดชมที่นี่
โซซันได้ทดลองทำอุปกรณ์ที่ทันสมัยจำนวนมาก ซึ่งยังไม่เป็นที่แพร่หลายในประเทศญี่ปุ่นสมัยนั้น เช่น เครื่องถ่ายภาพ เครื่องโทรเลขและเครื่องบำบัดรักษาด้วยไฟฟ้า โดยอ่านหนังสือภาษาดัตช์จำนวนมากมายและทำความเข้าใจด้วยตนเอง
ความรู้และการมองการไกลของโซซัน จะทำให้ท่านต้องประหลาดใจกับความคิดลงมือทำในทันทีที่นึกขึ้นได้
วัตถุที่นำมาจัดแสดงจะถูกผลัดเปลี่ยนปีละ 4 ครั้ง

ถนนสายประวัติศาสตร์

ถนนสายประวัติศาสตร์

“ถนนสายประวัติศาสตร์” ที่ถูกสร้างขึ้นในเมืองมัตสึชิโร่มีอีกชื่อหนึงที่เรียกว่า “เรกิมิจิ” เป็นเส้นทางเดินเที่ยวชมบรรยากาศของเมืองรอบปราสาทในยุคเอโดะ
รั้วบ้านซามูไร ประตูยาว (นากาย่ามง) ได้ถูกบูรณะขึ้นมาใหม่ บ้านที่ถูกสร้างขึ้นใหม่และร้านค้ายังคงถูกสร้างให้มีบรรยากาศของเมืองรอบปราสาท
ทางน้ำที่ถูกบูรณะขึ้นมาใหม่ก็ไม่ควรพลาดชมเช่นกัน
จุดที่น่าสนใจไม่ใช่ลำธารที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เป็นทางน้ำที่ถูกสร้างขึ้นในยุคเอโดะ เพื่อปล่อยให้น้ำซึ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตและการเกษตรไหลผ่าน

บ้านเก่าตระกูลโยโกตะ

บ้านเก่าตระกูลโยโกตะ

คฤหาสน์ที่เป็นแบบอย่างของบ้านพักอาศัยของซามูไรชั้นกลางของแคว้นมัตสึชิโร่ นอกจากแผนผังและรูปทรงแล้ว จุดที่น่าชมก็คือสิ่งที่ใช้ในการเพาะปลูก เพื่อทำสวนผักและน้ำพุ ที่ยังคงหลงเหลือบรรยากาศในสมัยก่อนให้เห็นอยู่
ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไป
ตระกูลโยโกตะ เป็นบ้านที่มีทรัพยากรบุคคลที่ทรงคุณค่าออกจากบ้านหลังนี้มากมายทั้งผู้อำนวยการศาลฎีกา หัวหน้าผู้พิพากษาศาลฎีกา และรัฐมนตรีกระทรวงรถไฟในช่วงปลายยุคเอโดะถึงยุคโชวา
นอกจากนี้วาดะ เออิ ผู้เขียน “บันทึกโทมิโอกะ” ซึ่งหลงไหลในโรงงานผลิตด้ายไหมโทมิโอกะที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปัจจุบันนี้ ก็เติบโตขึ้นที่นี่
ในหนังสือดังกล่าวไม่เพียงแค่ถ่ายทอดเรื่องราวของลักษณะของโรงงานปั่นด้ายเท่านั้น นับเป็นเอกสารสำคัญที่ทำให้ทราบถึงการเรียนการสอนและการอบรมวินัยของบ้านซามูไรอีกด้วย

บ้านเก่าตระกูลโยโกตะ

บ้านเก่าตระกูลโยโกตะ

คฤหาสน์ที่เป็นแบบอย่างของบ้านพักอาศัยของซามูไรชั้นกลางของแคว้นมัตสึชิโร่ นอกจากแผนผังและรูปทรงแล้ว จุดที่น่าชมก็คือสิ่งที่ใช้ในการเพาะปลูก เพื่อทำสวนผักและน้ำพุ ที่ยังคงหลงเหลือบรรยากาศในสมัยก่อนให้เห็นอยู่
ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไป
ตระกูลโยโกตะ เป็นบ้านที่มีทรัพยากรบุคคลที่ทรงคุณค่าออกจากบ้านหลังนี้มากมายทั้งผู้อำนวยการศาลฎีกา หัวหน้าผู้พิพากษาศาลฎีกา และรัฐมนตรีกระทรวงรถไฟในช่วงปลายยุคเอโดะถึงยุคโชวา
นอกจากนี้วาดะ เออิ ผู้เขียน “บันทึกโทมิโอกะ” ซึ่งหลงไหลในโรงงานผลิตด้ายไหมโทมิโอกะที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปัจจุบันนี้ ก็เติบโตขึ้นที่นี่
ในหนังสือดังกล่าวไม่เพียงแค่ถ่ายทอดเรื่องราวของลักษณะของโรงงานปั่นด้ายเท่านั้น นับเป็นเอกสารสำคัญที่ทำให้ทราบถึงการเรียนการสอนและการอบรมวินัยของบ้านซามูไรอีกด้วย

บ้านเก่าตระกูลมะเอะจิม่า

บ้านเก่าตระกูลมะเอะจิม่า

คฤหาสน์ที่มีอายุเก่าแก่มากที่สุดในแคว้นมัตสึชิโร่
ได้ถูกใช้เป็นที่อยู่อาศัยจริงมาจนถึงยุคปัจจุบันที่อบอวลไปด้วยลักษณะการดำรงชีวิตและบรรยากาศที่เป็นกันเอง
ตระกูลมะเอะจิม่าซึ่งทำงานรับใช้ตระกูลซานาดะทั้งที่อูเอดะและมัตสึชิโร่ กล่าวกันว่าตระกูลซานาดะมอบที่ดินตรงนี้ให้เมื่อครั้งที่ตระกูลซานาดะย้ายจากอูเอดะมาอยู่ที่มัตสึชิโร่
ความกว้างที่ดินนี้เมื่อตอนปลายยุคเอโดะมีมากกว่าปัจจุบันกว่าเท่าตัว ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางสำหรับการเดินเล่นในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของมัตสึชิโร่

หอระฆังของแคว้นมัตสึชิโร่เก่า

หอระฆังของแคว้นมัตสึชิโร่เก่า

หอระฆังซึ่งทำนห้าที่เป็น “ระฆังบอกเวลา” ของแคว้นมัตสึชิโร่

บ้านเก่าตระกูลฮิกุจิ

บ้านเก่าตระกูลฮิกุจิ

ตระกูลฮิกุจิเป็นซามูไรระดับสูงที่ทำงานเป็นผู้ควบคุมความประพฤติ
คฤหาสน์อยู่ใกล้กับปราสาท ที่อยู่อาศัยของเหล่าซามูไรที่ทำงานให้กับแคว้นจึงถูกสร้างขึ้นเป็นจำนวนมาก
ดูเหมือนเป็นคฤหาสน์ที่งดงามเรียบง่าย แต่ก็เป็นคฤหาสน์ที่แสดงให้เห็นถึงลักษณะเฉพาะของแคว้นมัตสึชิโร่ ที่ปราศจากความฟุ่มเฟือยและหรูหรา
ปัจจุบันได้ถูกใช้เป็นศูนย์ชุมชน การจัดแสดงแต่ละประเภท คอนเสิร์ตและกิจกรรมต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง

คฤหาสน์ยามะเดร่า โจซัน

คฤหาสน์ยามะเดร่า โจซัน

ประตูยาว (นากาย่ามง) ของคฤหาสน์ตระกูลซามูไรในแคว้นมัตสึชิโร่ที่มีความยาวที่สุด 22 เมตร ที่ชวนให้นึกถึงภาพบรรยากาศของเมืองรอบปราสาทในระหว่างทางเดิน
สวนในบ้านซึ่งกล่าวกันว่าถูกนำมาใช้งานจริงมากกว่าการชื่นชม
แต่การออกแบบให้มองเห็นภูเขาทาเคยามะ (ภูเขาโซซัน) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของมัตสึชิโร่เป็นฉากหลังของสวน
และการจัดให้มีห้องทำงานส่วนตัว (โชอิน) ทำให้ควรค่าแก่การชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง
ยามะเดร่า โจซัน, ซาคุมะ โซซันและคันบาระ โทซัน สามท่านนี้ถูกเรียกว่า “สามขุนเขา (ซานซัน)” แห่งมัตสึชิโร่
ยามะเดร่า โจซันเป็นนักปรัชญาที่ทำหน้าที่เป็นนักวิชาการและเจ้าหน้าที่ของแคว้น มีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับโซซันและโทซัน และด้วยพรสวรรค์ดังกล่าวทำให้เป็นที่ต้องการของรัฐบาลในยุคเมจิ แต่เขาได้เลือกที่จะอุทิศชีวิตเพื่อการศึกษาของนักเรียนในท้องถิ่น
ภายในคฤหาสน์ไม่ได้หลงเหลือห้องหลัก แต่บรรยากาศของประตูนากาย่ามง ห้องทำงานส่วนตัว (โชอิน) และสวนญี่ปุ่นที่งดงามและเรียบง่าย ได้แสดงให้เห็นถึงบรรยากาศเฉพาะตัวของแคว้นมัตสึชิโร่ ภายในมีสถานที่พักผ่อนโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และสามารถเดินชมสวนญี่ปุ่นได้ด้วย

แนะนำเส้นทาง

เส้นทางเดินเล่น

  • 0.9km
  • Abt. 2hr
  • ¥1,100※1

เส้นทางเยี่ยมชม เดินชมไปพร้อมๆ กับเพลิดเพลินกับการพูดคุยแลกเปลี่ยนกับผู้คนในท้องถิ่น เพลิดเพลินกับการพูดคุยเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และฟังเรื่องราวเบื้องลึกจากไกด์อาสาสมัครที่ประจำอยู่ในสถานที่
ด้วยมิตรไมตรีเล็กๆ น้อยๆ แต่น่าประทับใจ

เส้นทางเดินเล่น เส้นทางเดินเล่นและเวลาที่ใช้

  • =ระยะทาง
  • =ต้องใช้เวลา
  • =ค่าเข้าชม
พิพิธภัณฑ์สมบัติซานาดะ
    • 30นาที
    • ตั๋วรวมกัน

2min

คฤหาสน์ซานาดะ
    • 30นาที
    • ตั๋วรวมกัน

3min

บ้านเก่าตระกูลฮิกุจิ
    • 15นาที
    • ฟรี

2min

โรงเรียนบุนบุ
    • 20นาที
    • ตั๋วรวมกัน

1min

ประตูด้านหน้าบ้านเก่าตระกูลชิราอิ
    • 15นาที
    • ฟรี

5min

ซากปราสาทมัตสึชิโร่
    • 15นาที
    • ฟรี
  • ※1 ค่าใช้จ่ายสำหรับบุคคลทั่วไป(ผู้ใหญ่และนักเรียนชั้นมัธยมปลายขึ้นไป)