ตระกูลซานาดะคือใคร

ตระกูลซานาดะคือใคร

ตระกูลซานาดะเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลมาตั้งแต่ดั้งเดิม มีฐานที่มั่นอยู่ในพื้นที่เมืองซานาดะมาจิ อำเภออูเอดะในปัจจุบัน เมื่อครั้งที่เกิดการต่อสู้ระหว่างทาเคดะ ชินเก็นกับตระกูลอุนโนะในปีค.ศ. 1541 เชื่อกันว่าซานาดะ ยูกิสึนะ(หรือยูกิทากะ) อยู่ที่กองทัพอุนโนะ

การต่อสู้ในครั้งนี้ทำให้กองทัพอุนโนะพ่ายแพ้ ยูกิสึนะจึงได้หลบหนีไปตั้งถิ่นฐานที่โจชู (จังหวัดกุมมะในปัจจุบัน) อย่างไรก็ตามเขาได้ทำงานให้กับทาเคดะ ชินเก็นจนถึงปี 1549 กล่าวกันว่า หลังผ่านสงครามคาวานากะจิม่า พื้นที่จำนวนมากของภูมิภาคโทโฮคุชินและพื้นที่ส่วนหนึ่งของโจชู ตกมาอยู่ในมือของตระกูลทาเคดะได้ก็เพราะยูกิสึนะ

หลังจากรับช่วงต่อจากยูกิสึนะผู้เป็นบิดา โนบุสึนะบุตรชายคนโตและมาซาเทรุ บุตรชายคนรองได้ร่วมสู้รบในยุทธการนากาชิโนะและได้เสียชีวิตลงทั้งคู่ มาซายูกิ บุตรชายคนที่สามซึ่งถูกยกให้เป็นบุตรบุญธรรมจึงได้กลับมาสืบทอดตระกูลซานาดะต่อ

มาซายูกิและโนบุยูกิ บุตรชายคนโตและโนบุชิเกะ บุตรชายคนรอง (ยูกิมูระ) ได้ร่วมรบกับซามูไรในยุคเซ็นโกกุ เช่น ทาเคดะ, อุเอะสุกิ, โฮคุโจ, โทโยโทมิ, โทขุกาว่า บางครั้งต้องเชื่อฟัง บางครั้งต้องเผชิญหน้าและในตอนท้ายได้ก้าวหน้าขึ้นจนได้เป็นผู้บัญชาการที่มีอำนาจมากที่สุดในชินาโน่ฝั่งตะวันออกและได้สร้างปราสาทอูเอดะขึ้น

เมื่อครั้งยุทธการเซกิฮาร่า มาซายูกิและโนบุชิเกะได้ร่วมรบกับฝ่ายโทโยโทมิ ส่วนโนบุยูกิได้ร่วมรบกับฝ่ายโทขุกาว่า หลังจากฝ่ายโทขุกาว่าได้รับชัยชนะ มาซายูกิและโนบุชิเกะซึ่งเป็นฝ่ายที่แพ้ก็ถูกจองจำอยู่ที่ภูเขาโคย่าซัน (จังหวัดวากายาม่า)

มาซายูกิได้เสียชีวิตลงที่ภูเขาโคย่าซัน ส่วนโนบุชิเกะได้เข้าปราสาทโอซาก้าในภายหลัง และได้เสียชีวิตลงจากการต่อสู้กับกองทัพโทขุกาว่าในการล้อมโอซาก้า

ด้วยชัยชนะที่ได้รับทำให้โนบุยูกิซึ่งได้แยกจากพ่อและพี่ชายมาติดตามกองทัพฝ่ายโทขุกาว่า ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้สืบทอดปราสาทอูเอดะและอาณาเขตที่มาซายูกิ ผู้เป็นพ่อได้สร้างขึ้น

ในปีค.ศ. 1622 ได้ถูกย้ายมาที่มัตสึชิโร่และได้รับกรรมสิทธิ์ที่มัตสึชิโร่หนึ่งแสนโกกุ และที่โจชูนุมาตะ สามหมื่นโกกุ

ตระกูลซานาดะในนุมาตะได้ถูกลงโทษประมาณช่วงกลางยุคเอโดะ แต่ตระกูลซานาดะในมัตสึชิโร่ได้เป็นเจ้าเมืองปกครองแคว้นในแถบคิตะชินาโน่ถึง 10 รุ่น เป็นระยะเวลาประมาณ 250 ปีจนกระทั่งล้มเลิกระบบแคว้น

โนบุยูกิและเจ้าเมืองรุ่นต่อๆ มาได้สร้างรากฐานของเมืองรอบปราสาท มัตสึชิโร่ในปัจจุบันให้มีบรรยากาศที่งดงามและสงบเรียบร้อย โดยทุ่มเทให้กับพัฒนาสร้างเมืองและส่งเสริมอุตสาหกรรม ในขณะเดียวกันก็เคร่งครัดในเรื่องการดำรงชีวิตอย่างประหยัด พร้อมกับส่งเสริมด้านวรรณกรรมและการทหาร